Skip to content

นิทรรศการออนไลน์ สำหรับ OTOP

knowledge development project

OTOP ย่อมาจาก “One Tambon One Product” ซึ่งแปลว่า “หนึ่งตำบลหนึ่งสินค้า” เป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นในระดับตำบลของประเทศไทย โครงการนี้เกิดขึ้นเพื่อสนับสนุนให้กับชุมชนในพื้นที่ต่างๆ สามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละตำบล ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่น ลดความขาดแคลนงานทำเลี้ยงและสร้างสรรค์งานและอาชีพให้กับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทย

โครงการ OTOP มีการสนับสนุนตั้งแต่ขั้นต้นของกระบวนการผลิตภัณฑ์ การออกแบบ การพัฒนาสินค้า การตลาด และการจัดการธุรกิจ โดยมุ่งหวังให้ผลิตภัณฑ์ของแต่ละตำบลมีคุณภาพและเป็นเอกลักษณ์ ทำให้สามารถประชาสัมพันธ์และจำหน่ายได้ในท้องตลาดใหญ่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

โครงการ OTOP มีผลกระทบที่ดีต่อชุมชนและเศรษฐกิจของประเทศ ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนท้องถิ่น และยังเป็นที่รู้จักในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีความเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยออกสู่ตลาดโลกด้วย

ด้วยความต้องการของภาครัฐในการที่จะส่งเสริม และ เพิ่มการรับรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ OTOP ในโลกออนไลน์ จึงเป็นที่มาของการส่งเสริมให้มีการสร้าง การจัดนิทรรศการออนไลน์หรือ showroom ของ OTOP บนอินเตอร์เน็ต AVESTA ในฐานะบริษัทที่มีประสบการณ์ด้านเทคโนโลยี และ การรับงานนิทรรศการออนไลน์ ด้วยความคิดสร้างสรรค์ การสร้างสรรค์ระบบ ทำให้วันนี้เราได้สร้าง framework สำหรับการจัดงานนิทรรศการออนไลน์สำหรับ OTOP โดยเฉพาะขึ้นมา

โดยระบบดังกล่าวนั้น พร้อมที่จะทำการ Customize เพื่อให้รองรับการแสดงสินค้า OTOP ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นสินค้าจากจังหวัด อำเภอ และตำบลใดๆ ของประเทศไทย เพื่อให้ท่านเข้าสู่โลกดิจิตอลเพิ่มการรับรู้ และ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ

สำหรับการนำระบบนิทรรศการออนไลน์ไปใช้สำหรับ OTOP นั้นเราจะได้ประโยชน์ดังต่อไปนี้

  1. เข้าถึงกว้างขวาง: ระบบนิทรรศการออนไลน์ทำให้ผู้เข้าชมสามารถเข้าถึงงานนิทรรศการได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่จำเป็นต้องมาถึงสถานที่จัดงานจริงๆ ซึ่งเป็นประโยชน์สำคัญในช่วงเวลาที่มีการจำกัดเข้าถึงหรือข้อจำกัดทางกายภาพ เช่น สถานการณ์การระบาดของโรคระหว่างการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส เป็นตัวอย่างที่ดีมากสำหรับการจัด Virtual Exhibition
  2. ประหยัดทรัพยากร: การจัดงานนิทรรศการแบบออนไลน์ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเช่าพื้นที่ การจัดหาวัสดุอุปกรณ์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานแบบแสดงสด.
  3. เก็บข้อมูลและวิเคราะห์ผู้เข้าชม: ระบบนิทรรศการออนไลน์ช่วยให้ผู้จัดงานสามารถเก็บข้อมูลเกี่ยวกับผู้เข้าชมได้อย่างรวดเร็วและตรงประเด็น จากนั้นสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงรูปแบบของงานนิทรรศการในอนาคต และ ช่วยยกระดับการทำ CRM
  4. ความสะดวกสบายและสามารถเข้าร่วมได้ง่าย: ผู้เข้าชมสามารถเข้าร่วมงานนิทรรศการได้โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเดินทาง สามารถเข้าชมผ่านอุปกรณ์ออนไลน์ที่มีอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลา เพียงแค่มีมือถือหรือคอมพิวเตอร์ก็เข้าถึงทุกที่ทุกเวลาตลอด 24 ชม.
  5. ความสามารถในการปรับรูปแบบและเนื้อหา: ระบบนิทรรศการออนไลน์ช่วยให้ผู้จัดงานสามารถปรับรูปแบบและเนื้อหาของงานนิทรรศการได้ง่ายขึ้น และสามารถอัปเดตข้อมูลให้เป็นไปตามสถานการณ์และความต้องการของผู้เข้าชมได้.
  6. การสร้างประสบการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟ: ผู้จัดงานสามารถใช้เทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมเพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและน่าสนใจให้กับผู้เข้าชม ได้แก่การใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง (Virtual Reality) หรือการจัดกิจกรรมแบบแอร์การ์ม (Augmented Reality) เพื่อเพิ่มความสนุกสนานและการเข้าสัมผัสกับงานนิทรรศการ.
  7. ส่งเสริมการสร้างความร่วมมือและการเชื่อมโยง: ระบบนิทรรศการออนไลน์เปิดโอกาสให้ผู้จัดงานสามารถเชื่อมโยงกับผู้เข้าชม ภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยงานวิจัย และคนสนับสนุนอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความร่วมมือในการพัฒนางานต่อไป.

เช่นเดียวกับนิทรรศการแบบแสดงสด การสร้างระบบนิทรรศการออนไลน์ก็มีความสำคัญในการเพิ่มความสามารถในการเชื่อมโยงกับผู้เข้าชมและสร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและมีคุณค่าในยุคดิจิทัลนี้.

ติดต่อเราวันนี้เพื่อรับคำปรึกษาเรื่องนิทรรศการออนไลน์ ได้ฟรี ที่อีเมล์ [email protected]